วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

- อาหารเป็นยา

อาหารเป็นยา เพราะอาหารที่คุณคุ้นเคยหลายชนิดซึ่งนอกจากจะอร่อยลิ้นแล้วยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาทางสุขภาพของคุณด้วย นักวิจัยเขายืนยันมาว่า นี่คือ 9 ยอดอาหารธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพของคุณ

1.บร็อคโคลี่ ผักในตระกูลกะหล่ำที่เป็นที่นิยมของนักบริโภคทั่วโลก ประโยชน์ของบร็อคโคลี่คือ
  - ช่วยป้องกันมะเร็ง
  - อุดมด้วยวิตามินซี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ในร่างกายและยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรงอีกด้วย
  - ประกอบด้วยสาร glutathione ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคไขข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคหัวใจ และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดระดับคลอเลสเตอรอล และช่วยลดความดันโลหิตสูง
  - ป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากบร็อคโคลี่ จะมีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะ lutein
ขนาดรับประทาน : บร็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย ต่อสัปดาห์


2.กระเทียม ช่วยลดครอเลสเตอรอล มีฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินในการช่วยป้องกันการแข็งตัวและการอุดตันของหลอดเลือด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้เหมือนกับยาเพ็นนิซิลินโดยเฉพาะเวลาที่เจ็บคอ และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในการช่วยป้องกันมะเร็งลำใส้ใหญ๋และมะเร็งเต้านมอีกด้วย
ขนาดรับประทาน : การป้องกันโรคหัวใจรับประทานวันละ 1 กลีบ และโดยทั่วไปแนะนำให้รับประทานกระเทียมเป็นประจำทุกวันแล้วแต่ปริมาณที่คุณชอบ 

 3.ถั่วแดง เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของใยอาหารสูงมากค่ะ ดังนั้นจึงช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และมะเร็งลำใส้ใหญ่ค่ะ อุดมด้วยกรดโฟลิคที่ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์
polyphenolics 
ขนาดรับประทาน : ควรรับประทาน 1 ถ้วยต่อวัน


4.นมพร่องมันเนย เป็นแหล่งแคลเซียมสูงที่ปลอดไขมัน ซึ่งป้องกันภาวะกระดูกพรุนและยังประกอบด้วยสารโปรตัสเีซียมและแมกเนเซี่ยม ที่ออกฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ขนาดรับประทาน : คนวัยหนุ่มสาวต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 mg ส่วนวัยสูงอายุต้องการวันละ 1,500 mg




5.ส้ม เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เส้นใยอาหารสูง รวมทั้งสารอาหารชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันหวัด ลดระดับคลอเรสตรอรอล ช่วยในการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันมะเร็งลำใส้ใหญ่ตลอดจนช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจอีกด้วย นอกจากนี้สารphytochemicalsในส้มยังช่วยต่อต้านมะเร็งเต้านมด้วย
ขนาดรับประทาน :ควรรับประทานส้มวันละ 1-2 ผล เป็นประจำทุกวัน

6.ปลาแซลมอน มีปริมาณน้ำมันปลาที่เรีกว่า โอเมก้า3 ค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจและช่วยควบคุมอาการไขข้ออักเสบ นอกจากนี้น้ำมันปลายังช่วยลดอาการบวมก่อนการมีรอบเดือน และช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย
ขนาดรับประทาน : รับประทานสัปดาห์ละ 3 ออนซ์

 
7.เต้าหู้ ช่วยลดระดับไขมัน คลอเลสเตอรอล อุดมด้วยสาร lsoflavone สารเอสโตรเจนธรรมชาติจากพืช ป้องกันกระดูกพรุน ป้องกันมะเร็งเต้านม และยังช่วยให้ไตทำงานได้ดีด้วย
ขนาดรับประทาน : 30-50 mg ของlsofla0vne / วัน หรือเท่ากับปริมาณเต้าหู้ 1/2 ถ้วยต่อวัน

 8.ซอลมะเขือเทศ นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากมาย เช่น ป้องกันมะเร็งลำใส้ใหญ่  มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร สารlycopene ในมะเขือเทศเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์มีคุณสมบัติกำจัดสารอนุมูลอิสระให้ออกไปจากร่างกายคุณนอกจากช่วยป้องกันมะเร็งแล้วยังช่วยให้คุณห่างไกลความร่วงโรยอีกด้วย
ขนาดรัับประทาน : รับประทานได้ตามใจชอบเป็นประจำทุกวัน

9.น้ำ ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำคือยาอันมหัศจรรย์ หากดื่มน้ำได้เพียงพอจะช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย ตะคริว และรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันการเกิดนิ่วและยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสด้วย
 

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

- ผมมันกับนมเปรี้ยว

เส้นผมเป็นมันจะทำให้ผมดูลีบแบน และมีรังแคง่าย แต่คุณสามารถบำรุงเส้นผมให้ผมที่มีความมันลดระดับความมัน และมีความสมดุลพริ้วสลวยขึ้นได้ ด้วยการผสมไข่ไก่ 1 ฟอง(ใช้ทั้งฟองได้เลยไม่ต้องคัดไข่ขาวทิ้ง) ลงในนมเปรี้ยวประมาณ 1 แก้ว นำมาตีให้เข้ากัน(หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้) ต่อจากนั้นราดน้ำให้เส้นผมเปียกชุ่มแล้วจึงหมักนมเปรี้ยวผสมไข่ไก่ให้ทั่วทั้งศรีษะ หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาดก่อนสระผมตามปกติ

*** เพียงแค่นี้สุขภาพเส้นผมของคุณก็จะดีขึ้น ***

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

- เคล็ดลับบำรุงผิวหน้ามัน

เคล็ดลับการบำรุงผิวหน้ามัน เมื่อพูดถึงการบำรุงสุขภาพหน้า การบำรุงปิวหน้า การดูแลผิวหน้า โดยเฉพาะผิวหน้ามันไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ควรเอาใจใส่ดูแล เพราะหากใบหน้าคุณมีความมันเรามีวิธีบำรุงด้วยสูตรนี้ควรบำรุงทุกๆ 10 วันต่อหนึ่งครั้ง ด้วยแตงกวามะนาว และไข่ ซึ่งไม่มีสารเคมีใดๆที่จะทำให้คุณแพ้หรือเกิดอาการระคายเคือง

วิธีทำ เตรียมแตงกวา 2 ผล ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด นำมาปั่นให้ละเอียดผสมกับมะนาวครึ่งช้อนโตีะ และไข่ไก่ 2 ฟอง(คัดเอาแต่ไข่ขาว) เมื่อปั่นจนเข้ากันแล้วนำมาชโลมให้ทั่วใบหน้า(ก่อนชโลมควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนด้วยนะ) เว้นรอบริมฝีปากและบริเวณรอบดวงตา ทำหน้านิ่งๆปล่อยทิ้งไว้สักพักประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด

*** นี่เป็นเพียงอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้สุขภาพหน้าของคุณดีขึ้นแต่ถึงอย่างไรก็นำไปปฎิบัติได้นะคะ ***

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

- รักษาสิวและลดรอยด่างดำด้วย "หอมแดง"

หอมแดงนอกจากจะเป็นเครื่องแกงที่ช่วยเพิ่มรสชาติในอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยในการรักษาสิว ฝ้า และลดรอยด่างดำบนใบหน้าได้อีกด้วย เพราะในหอมแดงสดมีน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบไปด้วยสารกำมะถันและแร่ธาตุหลายชนิดเช่น เหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสในปริมาณสูงช่วยทำให้ความจำดี สรรพคุณในหอมแดงนั้นยังมีอีกมากมายเช่นช่วยให้เจริญอาหาร ลดความร้อนในร่างกาย แก้หวัดคัดจมูก ขับลมในลำใส้ ลดไขมันในเลือด และช่วยยับยั้งแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว

วิธีรักษา นำหอมแดงสดที่ล้างสะอาดแล้วมาหั่นเป็นแว่นบางๆ ใช้ทาหรือแปะไว้บริเวณที่เป็นสิว ฝ้า หรือจุดด่างดำ หรือเอาแว่นหอมแปะไว้บริเวณที่เป็นรอยบวมแดงจากการบีบสิว ทาทิ้งไว้หรือแปะไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก ทำเช่นนี้ทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ สิว ฝ้า หรือจุดด่างดำจะจางลง

***หากไม่ใช้วิธีหั่นเป็นแว่นก็สามารถคั้นเอาเฉพาะน้ำของหอมแดงสดและนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อดับกลิ่นและลดความซ่าที่อาจทำให้แสบผิว จากนั้นนำมาทาเม็ดผื่นคันหรือทาใบหน้าก่อนเข้านอนทุกวันจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดความมันบนใบหน้า จึงไม่ก่อให้เกิดสิว

ข้อควรระวัง ในการใช้ประโยชน์จากน้ำหอมแดงคือ ในหอมแดงสดจะมีสารกำมะถันซึ่งทำให้แสบตา แสบจมูกและทำให้ผิวหนังมีอาการระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อนจึงไม่ควรทาบริเวณใกล้เคียงกับตา และจมูก

***เห็นไหมละคะว่าหอมแดงนั้นมีประโยชน์มากมายสามารถใช้รักษาสิว ฝ้า และจุดด่างดำบนใบหน้าได้อีกด้วยผู้อ่านท่านไดที่กำลังมีปัญหาเรื่องนี้อยู่อย่าลืมลองเอาสูตรที่แนะนำไปใช้ดูนะคะ

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

- อาหารชลอความเหี่ยวย่นบนใบหน้า

รอยย่นบนใบหน้าเป็นสัญญาณของความแก่ชรานั่นเอง มีอาหารหลายชนิดที่ช่วยชลอความเหียวย่นบนใบหน้าได้ ดังนี้

1.ซาร์ดีน เป็นปลาน้ำเย็นที่เต็มไปด้วยกรดโอเมก้า3 โปรตีน และแคลเซียม (ซาร์ดีน 3 ออนซ์ ให้แคลเซียมเท่ากับนม 1 แก้ว หรือเท่ากับ 300 มิลิกรัม)


2.น้ำมันมะกอก สกัดจากผลไม้ชนิดหนึ่ง มีอัตราไขมันอิ่มตัวต่ำ เพื่อประโยชน์สูงสุดของร่างกายควรเลือกใช้ชนิด Extra Virgin เพราะมีความบริสุทธิ์มากที่สุด และยังมากไปด้วยสารแอนติออกซิแดนต์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้


3. แซลมอน มีกรดไขมันโอเมก้า3 โปรตีน และวิตามินเอ จำเป็นสำหรับสมองและการทำงานของหัวใจ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเกลือแร่สำคัญอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก แมกนีเซียม และสังกะสี หากกินแซลมอนร่วมกับผลไม้ ผัก ธัญพืช และถั่ว จะช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง โรคหัวใจ และเบาหวานได้
  
 
4. น้ำผึ้ง มีหลายร้อยชนิดในโลกนี้ สีและกลิ่นจะแตกต่างกันออกไปตามชนิดของเกสรดอกไม้ นอกจากเปี่ยมด้วยสารอาหารชั้นเลิศและยังมีสรรพคุณเยียวยาอาการติดเชื้อของแผล รวมทั้งช่วยเก็บความชุ่มชื้นและเพิมความยืดหยุ่นให้ผิว
5.โยเกิร์ต  ช่วยเยียวยาอาการที่เกิดกับระบบย่อยอาหาร ช่วยล้างสารพิษ และทำให้อายุยืน

- รักษาแผลน้ำร้อนลวกด้วยไข่ขาว


วิธีรักษา นำไข่ไก่ 1 ฟองตอกลงในถ้วย แล้วแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว จากนั้นนำไข่ขาวมาทาบริเวณที่ถูกน้ำร้อนลวกให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักจนกว่าจะแห้งเสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด รอยแผลแดงหรือพุพองก็จะหายไป

ข้อแนะนำ ก่อนทาไข่ขาวอย่าให้แผลโดนน้ำเย็น หรือแคะ แกะ เกา แผลเด็ดขาดเพราะจะทำให้หนังถลอก

- เปลือกกล้วยหอมรักษาส้นเท้าแตกได้

ปัญหาส้นเท้าแตกส่วนใหญ่มักเกิดจากรองเท้าแตะแบบหนีบ หรือรองเท้าเปิดส้น เพราะการใส่รองเท้าพวกนี้เป็นเวลานานๆ ผิวหนังตรงบริเวณนั้นจะค่อยๆ แข็งและหนาขึ้นจนทำให้เกิดส้นเท้าแตกในที่สุดวันนี้เรามีวิธีรักษาส้นเท้าแตกด้วยเปลือกกล้ยหอมมาฝาก

วิธีรักษา คือ เร่มจากทำความสะอาดเท้าให้เรียบร้อย จากนั้นนำเปลือกกล้วยหอมมาถูตรงบริเวณส้นเท้าที่แตก ถูไป-มา แล้วท้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดเสร็จแล้วเช็ดให้แห้งพร้อมกับทาครีมรักาส้นเท้า (วิธีนี้ควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

***เพียงแค่ถูไป-มา ก็รักษาส้นเท้าแตกได้ รู้อย่างนี้แล้วก็ลองเอาวิธีที่แนะนำไปรักษาอาการส้นเท้าแตกกันดูได้นะคะ***